Think Happy be Happy
ช่วงเวลาที่ผ่านมารื้อหนังสือเก่ากลับมาอ่านเล่มนึงคือ UNLIMITED POWER ประจวบเหมาะกับบังเอิญได้เริ่มคุยกับน้องคนหนึ่ง เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมารู้สึกชอบและไปเห็นแคปชั่นนึงของน้องเค้าเขียนว่า "Think Happy be Happy"
ช่วงเวลาที่ผ่านมารื้อหนังสือเก่ากลับมาอ่านเล่มนึงคือ UNLIMITED POWER ประจวบเหมาะกับบังเอิญได้เริ่มคุยกับน้องคนหนึ่ง เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมารู้สึกชอบและไปเห็นแคปชั่นนึงของน้องเค้าเขียนว่า "Think Happy be Happy"
เคยคิดว่า.. ถ้าโลกนี้ไม่มีเธอ ฉันคงแย่แน่นอน ฉันจะเป็นยังไง จะอยู่ได้ไหม ฉันจะเอาแต่คิดถึงเธอไปถึงเมื่อไหร่ ฉันจะรู้สึกยังไง เมื่อเธอจากไปอย่างไม่ใยดี ฉันจะทนมันไหวมั้ย โลกที่ไม่มีเธอ แต่แล้วโลกมันก็หมุนรอบตัวเองของมัน หมุนต่อไปทุกวัน มันหมุนจนกลายเป็นหนึ่งวัน จนกลายเป็นหนึ่งสัปดาห์ จนกลายเป็นหนึ่งเดือน จนกลายเป็น..
พระพุทธองค์ ทรงสอนพวกเราว่า.. ไม่ว่าเราได้พบเจอใคร เขาเหล่านั้น คือคนที่เราจะต้องได้พบเจอ ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตเรา ด้วยเหตุบังเอิญ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวใด ๆ ขึ้นในชีวิตเรา มันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิด ไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือร้าย เราต้องยอมรับมัน เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน เวลาใด นั่นคือ เวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ควรเกิด เพราะมันต้องเกิด เมื่อปัจจัยจบ ต้องยอมรับว่าจบ อย่าเหนี่ยวรั้ง อย่าอาลัยอาวรณ์ ทำความดี ในปัจจุบันให้มากที่สุด โดยไม่ต้องสนใจว่า เราเคยทำกรรมอะไรในอดีตมาบ้าง เพราะคิดไปก็เปล่าประโยชน์
หลายๆ คนคงอยากเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ แต่คงยังมีคำถามในใจเรื่อง ขายของออนไลน์ ขายอะไรดี กำไรเยอะ ลงทุนน้อย ธุรกิจยั่งยืน ใช่มั้ยครับ - ช่วงเวลาเกือบปีที่ผ่านมา ผมได้ลองทำโปรเจคธุรกิจ Dropshipping โดยนำสินค้าจาก AliExpress ไปวางขายบนเว็บไซต์ชื่อดังต่าง ๆ อาทิเช่น แอมะซอน อีเบย์ ยอดขายมีเรื่อยๆ ปริมาณการสั่งซื้อต่อเดือนโดยเฉลี่ย ถือว่าดีมาก ยอดขายหลัก $1,000 ขึ้นไป ยอดรายได้ดูดีเลยทีเดียว
ปี 2559 กำลังจะผ่านไปแล้วนะครับ เข้ามีเขียนส่งท้ายปี 59 หน่อย แต่ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรที่ดูมีสาระ ช่วงนี้ชีวิตส่วนตัวผมวุ่นวายนิดหน่อย ส่งท้ายปีเลย ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจทำอะไร ท้อแท้ หมดกำลังใจ แต่เวลาคงจะช่วยให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้
ตั้งใจจะเปลี่ยน Theme มานาน แต่หาธีมสวยๆ แบบฟรี ยังไม่เจอ ส่วนใหญ่ที่สวยๆ ก็ขายกันแพงมาก $59-$129 USD โดยเฉลี่ย ซื้อมาใช้กับบล็อกเล็กๆ ส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักและทราฟฟิคน้อยแบบเว็บผมคงไม่คุ้ม เลยหยุดความคิดจะเปลี่ยนธีมไปพักนึง จนมารู้ว่าคุณเม่นทำสตาร์ทอัพเกี่ยวกับธีม Seed Themes
ช่วงที่บวชเป็นพระอยู่ที่วัดปัญญาฯ นั้น ได้เรียนธรรมะหลายอย่าง ในคลาสหนึ่งพระอาจาร์ยมิ่งขวัญ สอนเรื่อง "ปฏิจจสมุปบาท" โดยก่อนการสอนนั้น พระอาจาร์ยมิ่งขวัญให้พระนวกะแต่ละรูปออกมา อธิบายภาพ ปฏิจจสมุปบาท ตามที่ตนเองเข้าใจแบบย่อ ๆ
หายไปนานเลย ไม่ได้เข้ามาเขียนบล็อกบันทึกเรื่องราวความทรงจำของวันวานที่ผ่านๆ มาสักเท่าไหร่ ในแต่ละวัน แต่ละเดือนมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตเยอะแยะมากมาย เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ยุ่งๆ เรื่องการปิดร้าน เก็บของกลับกรุงเทพฯ เพราะการไปเปิดร้านค้าขายของที่ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมาอีก แสน-สองแสนบาท ขายไม่ดี ทำเลไม่ดี ผมตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องการลงทุน นี่ก็คือช่วงเวลาที่หายไปในช่วงปลายปีที่ไม่ได้เขียนบันทึกไว้ ตั้งใจจะเขียนนานแล้ว แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียน ชีวิตเข้าสู่ความท้อแท้ครับ
สมัยเมื่อ 3 ปี ก่อน บอกตรงๆ ว่าผมยังไม่คิดที่จะทำการตลาดออนไลน์ในประเทศไทย เพราะคนไทยยังไม่เชื่อมั่นในตัวเองที่จะซื้อของออนไลน์ รวมถึงไม่เชื่อมั่นในตัวคนขายด้วย ว่าจะโกง(ตรู)มั้ย อีกทั้งระบบออนไลน์ในเมืองไทยก็ไม่ได้ดีมากนัก (สมัยนี้ดีขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยังไม่ได้ดีมากเท่าที่ควรจะเป็น ค่า Payment Gateway ของผู้ให้บริการในไทย ผมยังมองว่ามีราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ และวิธีสมัครใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก สำหรับในเมืองไทยเทคโนโลยีไปไกลแล้ว แต่คนใช้ยังย่ำอยู่ที่เดิม ล้าสมัย ยึดติดความคิดเดิม ๆ ผมเองก็เป็น) บวกกับในตอนนั้นมีหน้าร้านอยู่แล้วด้วย ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย ยอดขายหน้าร้านไม่ได้ดีมาก แต่ก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ผมจึงเริ่มมีความคิดที่จะนำสินค้าภายในร้านไปลงขายกับเว็บต่างประเทศ จนมาทำเว็บไซต์ eCommerce