กลับมาว่ากันต่อนะครับ ถึงตอนไหนแล้วน่ะ… อ๋ออออ!!! การทำตัวให้รู้อย่างพหูสูต อ่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คิดว่าคงมีหลายๆคน คงจะรออ่านอยู่

ในมงคลชีวิต ๓๘ ประการ ได้อธิบายลักษณะและแนวทางการเป็นพหูสูตไว้ในมงคลชีวิตประการที่ ๗ เรื่อง “ความเป็นพหูสูต” เพื่อให้เราใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาตัวเราเอง ดังนี้

ลักษณะของพหูสูต

  • รู้ลึก คือ มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งไปถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ เช่น เมื่อแพทย์เห็นอาการของคนไข้ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นโรคใดและสาเหตุของโรคคืออะไร
  • รู้รอบ คือ ช่างสังเกต รู้ถึงความเป็นไปของสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น รู้ว่าผู้คน สิ่งแวดล้อม บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
  • รู้กว้าง คือ มีความรู้ในสิ่งรอบตัวอย่างละเอียด รวมไปถึงสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กันด้วย
  • รู้ไกล เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ คือ มองการณ์ไกล รู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตจากการเห็นเหตุการณ์ในปัจจุบัน เช่น เห็นคนท่าทางไม่น่าไว้ใจ ก็รู้ได้ว่ากำลังคิดแผนร้าย

เมื่อรู้ลักษณะของพหูสูตแล้ว ต่อไปเรามาดูแนวทางการพัฒนาตนเองสู่การเป็นพหูสูต ซึ่งได้อธิบายไว้ดังนี้

แนวทางปฎิบัติสู่การเป็นพหูสูต

  • เลือกเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และทำความเข้าใจในเรื่องนั้นอย่างหมดจดทุกแง่ทุกมุม
  • หาเทคนิคในการจดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้ เพื่อและนำความรู้ดังกล่าวมาปรับใช้ตามสถานการณ์เมื่อโอกาสมาถึง
  • มีความกระตือรือร้นที่จะค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และเป็นคนช่างสังเกต เรียนรู้ที่จะฟังมากกว่าพูด ขยันอ่านและจดบันทึก
  • รู้จักพิจารณาอย่างมีเหตุผล มองถึงความเป็นไปได้ของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  • ใฝ่หาความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป

หากเราทุกคนปฎิบัติได้ตามแนวทางข้างต้น เราจะกลายเป็นคนที่ “รู้อย่างพหูสูต” ในเรื่องที่เราตั้งใจจะศึกษา แล้วสังคมของเราก็จะมีคนรู้อย่างเป็ดน้อยลง แต่จะมีคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรมมาพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ได้อย่างแท้จริง

ผมหวังว่าบทความทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่อง “อย่ารู้อย่างเป็ด” ที่ผมนำมาให้อ่านกันนี้ คงจะมีประโยชน์ไม่น้อย หากได้นำไปปฎิบัติใช้กันนะครับ

ขอขอบคุณ วารสารนานาสาระ add free magazine มากๆ ครับ ที่มีแต่เนื้อหาสาระดีๆมานำเสนอให้นักอ่านทั้งหลายได้อ่านกัน