sale report1มารายงาน ความคืบหน้าการเป็น Seller Amazon หน่อยนะครับ หลังจากที่ผมได้สมัครเป็นผู้ขายสินค้ากับทางแอมะซอนแล้วนั้น ผมก็ได้ลงสินค้าขายในช่วงต้นเดือนกันยายนทันที โดยตั้งเป้าลงสินค้าไว้ที่ 600 รายการ แต่กลับลงสินค้าไปได้เพียงแค่ 68 รายการเท่านั้นเอง ช่วงที่ทำการลงสินค้าปัญหาที่เจอ คือ ระบบอัพเดทช้า ทำให้บางครั้งผมลงสินค้าซ้ำซ้อน (อายุเยอะแล้วเริ่มงง ๆ) หลัง ๆ มาผมจึงต้องรอให้ระบบอัพเดทก่อนจึงค่อย ๆ ทยอยลงสินค้าชิ้นต่อไป ทำให้การลงสินค้าในแต่ละครั้งเสียเวลาไปมาก ผมไม่ได้ลงผ่านไฟล์ CSV นะครับ ซึ่งเร็วกว่า แต่ก็ Error สูง ยอมเสียเวลาใส่สินค้าทีละรายการดีกว่า (ยังไม่เคยลอง ความเห็นส่วนตัว ความรู้สึกล้วนๆ)

หลังจากที่ผมลงสินค้าไปได้สักพักใหญ่ ๆ (ประมาณ 12 วัน) สินค้าของผมก็มีการสั่งซื้อเข้ามา 2 ออเดอร์ จากลูกค้าสหรัฐอเมริกา 1 ท่าน และ ลูกค้าจากประเทศตรุกี 1 ท่าน ใจชื่นขึ้นมาหน่อยว่าขายของได้แล้ว แอบดีใจลึก ๆ แต่หลังจากได้ออเดอร์แรกในวันนั้นมา จนถึงวันนี้ยังไม่มียอดสั่งซื้อใหม่เข้ามาเลยครับ ผมลองนั่งค้นหาสินค้าของตัวเอง หาเจอบ้าง ไม่เจอบ้าง ที่เจอก็อยู่หน้าหลัง ๆ เลย แต่ส่วนใหญ่หนักไปทางหาไม่เจอซะมากกว่า ไม่รู้ทำไงดี เห็นในระบบแนะนำให้ทำโฆษณากับทางแอมะซอน (Pay Per Click : PPC) เพื่อสินค้าของเราจะได้ไปปรากฎให้ลูกค้าเห็นได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการขาย ต้องเสียตังค์ประมูลคีย์เวริด์อีก.. เลยสงสัยว่า 2 ออเดอร์ที่ได้มาเนี๊ย ฟลุ๊ค! แน่ ๆ เลย..

sale report amazon

เมื่อสองสามวันก่อน ผมลองมานั่งวิเคราะห์สินค้าที่ผมลงขายในบางรายการ เทียบกับคู่แข่ง สรุปได้ว่า ราคาสินค้าผมสูงกว่าคู่แข่งเยอะพอสมควร และผมไม่ได้ทำโฆษณาเพื่อโปรโมทให้ลูกค้าเห็นสินค้าบ่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขายไม่ได้ก็เป็นได้ สงสัยต้องปรับราคาลงมานิดนึง (แต่ก็ยังสูงกว่าคู่แข่งอยู่ดี) คู่แข่งผมคือคนต่างชาติ ไม่ใช่คนไทยด้วยกัน คือ สินค้าค่อนข้างมีน้ำหนักมาก ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายด้านการจัดส่งสินค้าสูง เดี๋ยวผมอาจใช้บริการ Amazon Fulfillment ก็เป็นได้ แต่ขอดูยอดสั่งซื้อสักพักก่อนดีกว่า ช่วงนี้รายจ่ายเยอะ ต้องสำรองเงินกว่า 5 หมื่น ไว้จ่ายค่าเช่าพื้นที่ที่เซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่ที่ดันมาเปิดร้านนี้ก่อน มีแต่รายจ่ายครับ รายรับเข้าน้อยเหลือเกิน เข้าเนื้อทุกเดือน กินเงินเก่าเงินเก็บจนจะหมดแหล่ะครับ เหนื่อย ช่วงนี้เลยต้องประหยัด ๆ ซักหน่อย ดิ้นรนหารายรับให้ได้มากกว่ารายจ่ายทุกทางเลยก็ว่าได้ช่วงนี้ ที่สุดของแจ้เลย เช็ดน้ำตาแพร็บบบบ.. ไว้ปิดร้านเครื่องหอม ที่เชียงใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว จะได้เงินค้ำประกันคืนมา 4 หมื่นบาท ไว้ตอนนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะขยับขยายไปทางไหนต่อ

โปรเจคนี้ ผมตั้งใจวัดผลประกอบการที่ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ กันยายน จนถึง พฤศจิกายน นี้ หากไม่สามารถขายได้ หรือ รายได้ที่ได้มานั้นไม่มีเหลือเก็บไม่พอใช้ (ต้องบอกก่อนนะว่าผมเป็นคนประหยัด วันนึงใช้เงินกินข้าวไม่เกิน 120 บาท เยอะสุดแระ น้อยสุดวันละ 80 บาท) ผมก็ไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไรอีกแล้ว ความรู้ท้วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด! ดิ้นรนจนท้อแล้วครับ จะไปเกาะพี่เกาะน้อง ขอเงินพ่อแม่ใช้ก็คงไม่ใช่นิสัยส่วนตัวผม ครั้งนี้คงดิ้นรนครั้งสุดท้ายแล้วครับ (หมดเนื้อหมดตัวแล้วนิ) ถ้าไม่รอด ก็คงออกบวช เดินตามรอยทางแห่งธรรมะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเบิกทางไว้ให้แล้วสู่การนิพพาน ก็คงต้องมาดูกันว่า..วาสนาของผมจะนำพาไปทางไหน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ผมยินดีกับผลที่จะได้รับนั้น ผมขอภาวนาจิตว่า หากการค้าขายบนแอมะซอนครั้งนี้ดี.. อันเกิดด้วยความเพียรพยายามแล้ว ก็ขอให้ขายดีมากจนมีเงินเก็บสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ร่ำรวยเงินทอง หรือหากได้ออกบวช ก็ขอให้ผมสามารถปฏิบัติธรรมจนสำเร็จสู่นิพพาน ชาตินี้คือชาติสุดท้ายได้ด้วยเทอญ..

ตอนนี้ยังมีเวลาอีก 2 เดือน ผมจะทยอยลงสินค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้อย่างน้อยเดือนละ 600 รายการตามที่ตั้งใจไว้ ผลความคืบหน้าครั้งหน้าเป็นอย่างไรจะมารายงานอีกครั้งนะครับ