บวชวัดปัญญานันทาราม คลองหก ปทุมธานี
ขอเล่าเรื่องราวก่อนบวชสักนิด:
หายไปนานเลย ไม่ได้เข้ามาเขียนบล็อกบันทึกเรื่องราวความทรงจำของวันวานที่ผ่านๆ มาสักเท่าไหร่ ในแต่ละวัน แต่ละเดือนมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตเยอะแยะมากมาย เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ยุ่งๆ เรื่องการปิดร้าน เก็บของกลับกรุงเทพฯ เพราะการไปเปิดร้านค้าขายของที่ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมาอีก แสน-สองแสนบาท ขายไม่ดี ทำเลไม่ดี ผมตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องการลงทุน นี่ก็คือช่วงเวลาที่หายไปในช่วงปลายปีที่ไม่ได้เขียนบันทึกไว้ ตั้งใจจะเขียนนานแล้ว แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียน ชีวิตเข้าสู่ความท้อแท้ครับ
พอขึ้นปีใหม่ 2559 ชีวิตการงานก็ราบเรียบ เรียบจริงๆ ขายของที่มีอยู่ พอประทังชีวิตไป โดยขายออนไลน์ผ่านเว็บ และ เฟสบุ๊ค ยอดขายเฉลี่ยได้อยู่วันละ 250 บาท โดยประมาณ ถือว่ากินเงินลงทุนไป ดีที่สินค้าที่นำมาขายนั้น ไม่บูด ไม่เสีย มีอายุการใช้งานนาน ขายได้วันเว้นวัน ดีครับ! ชีวิตเริ่มไม่ค่อยคิดอะไรมากแล้ว เคยชิน…
เข้าเรื่องบวชเลยดีกว่า… ก่อนหน้านี้ ผมเองตั้งใจจะบวชมานานแล้ว จริงๆ ก็คิดไว้นาน ก่อนจะไปทำสัญญาเช่าพื้นที่ขายของกับห้างดังนั้นเสียอีก เพียงแต่พ่อกับแม่ ไม่ยอมให้บวช เหตุเพราะ…
- ท่านนับถือ พุทธ นิกาย มหายาน
- ท่านเกรงว่าผมจะไม่ลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาส เพราะช่วงนั้น (จริงๆ หลายช่วง 55) ผมเองก็ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง (ตอนนี้ก็ยังไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลัก)
เหตุที่ทำให้พ่อกับแม่ยอมให้บวช ก็อาจเนื่องด้วย บุญบารมีที่เคยสะสมมา และ เหล่าเทวดาทั้งหลายได้ดลใจให้พ่อและแม่ ยินยอมเรื่องการบวชในครั้งนี้
ผมเข้ารับการบรรพชา วันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ 2559 รุ่น 2/59 มีเพื่อนร่วมบวชรอบเดียวกัน อีกจำนวน 8 คน ทำให้รุ่นนี้มีเข้ารับบรรพชาทั้งหมด 9 รูป เลขสวยเลย
ขั้นตอนก่อนการบวชที่ วัดปํญญาฯ:
ไม่มีอะไรยุ่งยากมากครับ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงกฎเกณฑ์เล็กน้อยที่ต้องปฏิบัติก่อนการได้รับการบรรพชา คือ
- ต้องเข้าร่วมโครงการบวชเนกขัมมะบารมีกับทางวัดปัญญาฯ อย่างน้อย 1 คอร์ส
- ท่องจำบทสวดขออุปสมบทให้ขึ้นใจ
- ตรวจร่างกาย (ตรวจหาเชื้อ HIV และ สารเสพติด)
- จัดเตรียมเอกสารส่วนตัวที่จำเป็น เช่น รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้
พิธีการอุปสมบท บวชวัดปัญญานันทาราม ก็เรียบง่ายครับ โดยจะทำพิธีทุกวันเสาร์แรกของเดือน (คอร์สบวชของที่นี้ คือ 15 วัน เป็นอย่างต่ำ)
- โกนผม ถือศีล 8 อยู่วัดก่อนบวช 1 คืน ในวันนี้ก็นำเอกสารที่จัดเตรียมไว้มายื่นที่สำนักงานของวัดฯ ชำระค่าเครื่องอัฐบริขาร 2,000 บาท (บาตรและจีวร) บวกค่าหนังสือ 700 บาท รวมเป็น 2,700 บาท ในวันนี้ทุกคนที่มาบวชจะได้รับฉายานามไว้ขานรับตอนอุปสมบทครับ ผมได้ฉายาว่า “โฆสกธัมโม แปลว่า ผู้มีธรรมะอันกึกก้อง“
- ทำพิธีบรรพชาอุปสมบทโดยพระอุปัชฌาย์ ใช้เวลาไม่นาน บ่ายสาม บ่ายสี่โมงเย็น ก็เสร็จแล้ว (ตามปกติ จะบวชเป็นเณรในช่วงเช้า และบวชเป็นพระในช่วงบ่าย) แต่รุ่นผมนั้น บังเอิญพระอุปัชฌาย์มีกิจนิมนต์ช่วงเช้าเลยต้องมาทำพิธีแบบรวดเดียวจบในช่วงบ่ายเลย ซื่งนั้นก็ดีไปอีกแบบ ไม่ว่าแบบไหนก็ดีนั่นเอง
ช่วงเป็นพระนั้น ได้เรียนรู้หลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งที่ถ่ายทอดโดยพระอาจารย์ในวัด และ ทั้งที่อ่านเองจากตำรา โดยปกติช่วงที่เป็นฆราวาส ผมเองชอบอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับธรรมะอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือสมัยใหม่ เช่น หนังสือเดอะ ท๊อปซีเคร็ต, เดอะ ท๊อป พาวเวอร์ 2 เล่มนี้เขียนโดยทันตแพทย์ สม สุจีรา หรือ หนังสือชื่อว่า ถ้ารู้(กู)ทำไปนานแล้ว เขียนโดย ณัฐพบธรรม หรือ คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่ ของท่าน ติช นัท ฮันห์ (ว่าด้วยเรื่องของพุทธประวัติ) หรือ หนังสือของท่านพุทธทาส เป็นต้น การได้บวชเป็นพระ อยู่ในบวรของพุทธศาสนานั้น ทำให้ผมเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เห็นภาพชัดขึ้นว่าพระธรรมที่ท่านพบเป็นอย่างไร และจะนำไปปฏิบัติได้เช่นไร
การเป็นพระนวกะในโครงการของวัดปัญญาฯ นั้น มีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวัน เป็นวัตร ตลอด 15 วัน ตั้งแต่ ตื่นตี 4 ทำวัตรเช้า ออกบิณฑบาตร เรียนธรรมะ พัฒนาบูรณะวัด ทำวัตรเย็น อบรมภาคค่ำ แล้วเข้านอนสามทุ่มครึ่งถึงสี่ทุ่ม โดยประมาณ วนเวียนแบบนี้จนครบ 15 วัน แต่จะมีช่วง 5-6 วัน สุดท้ายก่อนจบโครงการฯ พระนวกะจะได้ธุดงค์ไปจำที่สวนธรรมอ่างทอง เป็นช่วงเวลาที่ดี ดีน่าจดจำอีกช่วงหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อครบกำหนดจบโครงการฯ แล้ว พระรูปไหนอยากสึก ก็ลาสิกขาออกไปเป็นคฤหัสถ์ได้ เพราะกิจกรรมการบวชพระนวกะจบสิ้นแล้ว แต่พระรูปใดไม่อยากสึกก็สามารถอยู่ต่อได้เลย
สำหรับผมเอง อยู่เต็มเดือนกุมภาฯ ขอสึกเมื่อวันที่ 29 กพ 2559 (4 ปี มีครั้งหนึ่ง) ใจจริงๆ บอกเลยครับ ว่าไม่อยากสึก แต่กิจทางโลกยังเยอะมาก และไม่มีใครทำเป็นธุระให้ เลยตั้งใจว่าออกมาเคลียร์ กิจที่ต้องทำเองให้เบาบางลงเสียก่อน แล้วอาจจะออกบวชอีกครั้ง หากแต่ครั้งหน้าอยากจะขอเป็นพระยาวๆ สักหลายๆ พรรษาหน่อย เพราะผมรู้สึกถูกจริตทางธรรม มากกว่า ทางโลก ซะแล้ว
อัพเดทช้าไปสักหน่อย แต่ก็อัพเดทพอให้เว็บมีความเคลื่อนไหวบ้าง สิ่งที่ทำเพิ่ม คือ เปลี่ยนธีมเว็บใหม่ ให้ดูสะอาดตา อีกอย่างตั้งใจว่าจะนำของส่วนตัวที่ไม่ค่อยได้ใช้มาขายเป็นของมือสองให้หมด ยังไงช่วยอุดหนุนกันสักนิด เป็นค่าเช่าห้อง ค่าข้าวนายบอยก็ยังดีครับ ก่อนบวชก็ไม่มีเงิน เป็นพระก็ไม่มีเงิน สึกแล้วเงินก็ยังไม่มี เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือต้องหาเงินซื้อข้าวกินเอง… ชีวิตทางโลก มันเป็นเช่นนั้นเอง..
ท่านใดมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการบวช ไม่ต้องติดต่อมาหาผมนะครับ ขี้เกียจตอบกลับ พูดเลย!!!
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ โดยตรงได้ที่ สำนักงานวัดฯ โทร 02-9046107, 086-4618353
จบแล้ว บทความ บวชวัดปัญญานันทาราม :)