เขียน Blog ต่อไม่รอล่ะนะ! (เห็นเขาฮิตคำนี้กันเอามาใช้เล่นบ้าง เดี๋ยวไม่ทันยุคทันสมัย ^^) ตั้งใจจะเขียนเรื่อง Google Shopping ads มาสักพักแล้ว ก็ติดเรื่องนั่นนี่อยู่ (ข้ออ้างล้วน ๆ แหะแหะ) พอเวลาเหมาะสม ก็ถึงเวลาเขียนเรื่องนี้สักที… ผัดวันประกันพรุ่งมาหลายเดือนล่ะ
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประมาณเดือนมีนาคม Google ได้ปล่อยฟีเจอร์โฆษณาแบบ Shopping ads ออกมาแบบเต็มตัว ตอนนั้นผมเองเริ่มรู้และลองศึกษา เพื่อจะใช้โปรโมทขายของกับธุรกิจดรอปชิบ ซึ่งแน่นอนว่า ค่าโฆษณานั้นมีค่าประมูลคำค้นหาที่ถูกมาก ๆ เพราะคนยังใช้กันน้อยมากอยู่
ก่อนหน้านี้ มันถูกเรียกว่า Google Product Search, Google Products และ Froogle ซึ่งเป็นบริการหนึ่งของ Google service invented โดย Craig Nevill-Manning ซึ่งให้ผู้ใช้งานบน google สามารถค้นหาสินค้าจากเว็บที่ขายสินค้าต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อเปรียบเทียบราคาต่าง ๆ ได้ โดย Google Shopping นั้น ทำงานร่วมกัน 2 แพลตฟอร์ม คือ Google ads และ Google Merchant Center
แล้ว Google Merchant Center คืออะไร – เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ google ทำไว้ให้เราใช้งาน เพื่ออัพโหลดข้อมูลสินค้าภายในร้านออนไลน์ของเราขึ้นไปในระบบของ google เพื่อนำไปใช้งาน shopping ads และบริการอื่น ๆ ของกูเกิ้ล สรุปง่าย ๆ คือ Google Merchant Center เป็นที่ ๆ เราไว้ใส่ข้อมูลสินค้า (products feed) นั่นเอง
Google Shopping ads ช่วยให้คนที่กำลังหาซื้อสินค้าออนไลน์ เข้าถึงสินค้าภายในเว็บของเราได้ง่ายและเร็วขึ้น แน่นอนว่า ถ้าเรากำลังขายของออนไลน์อยู่ เราเองก็อยากที่จะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเร็วด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ Google Shopping ads นั้น เปิดให้แสดงผลเฉพาะประเทศ Argentina, Australia, Austria, Belgium, Brazil, Canada, Chile, Colombia, Czechia, Denmark, France, Germany, Hong Kong, India, Indonesia, Ireland, Italy, Japan, Malaysia, New Zealand, Norway, the Philippines, Poland, Portugal, the Netherlands, Russia, Singapore, South Africa, Spain, Sweden, Switzerland, Taiwan, Turkey, United Arab Emirates, UK, และ US. เหล่านี้เท่านั้นเอง
แต่ปัจจุบันประเทศไทยเราเริ่มเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบเมื่อ 3-4 เดือน นี้เอง ถ้าลองค้นหาสินค้าดูช่วงนี้ก็จะเห็นแล้วว่า โฆษณาแบบ Shopping ads แสดงผลเยอะมาก
เรามาเริ่มทำ Google Shopping ads กันเลยดีกว่า..
ก่อนที่จะเอาสินค้าไปลงขายกับ Google นั้น เราต้องอัพโหลดสินค้าเข้าไปใน Google Merchant Center ก่อน และสร้าง Shopping campaign ใน Google ads ขึ้นมา
เข้าไปสร้างบัญชี Google Merchant Center ก่อน
กด SIGN UP เพื่อสมัครใช้บริการได้เลย หากมีบัญชี Gmail ที่ใช้อยู่แล้ว ก็ล็อกอินจากบัญชีที่มีอยู่นะครับ
กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ชื่อร้าน ชื่อเว็บ สถานที่ (เว็บขายสินค้าไทยก็ใช้สถานที่ไทย เว็บดรอปชิบก็อเมริกา หรือ อื่น ๆ แล้วแต่สะดวก)
ติ๊ก.. ยอมรับเงื่อนไขและกด continue ไปต่อ ได้เลย
ทำการ Verify website ของเรา ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้ายังไม่สะดวกเราสามารถกดข้าม (Skip) ไปก่อนได้นะครับ
ในกรณีที่เราต้องการ Verify website ทีหลังก็ไปที่เมนู Business Information
เราสามารถ Verify ได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
หากเว็บเราเคยติด Google Analytics ไว้แล้ว ก็ Verify แบบ Google Analytics ได้เลยครับ แบบนี้ก็สะดวกดี
ทำการเลือก Verify แบบ Google Analytics แล้วก็กด Verify & Claim ได้เลย เพียงเท่านี้เว็บไซต์เราก็ผ่าน verified and claimed จาก Google Merchant Center เป็นทีเรียบร้อย ส่วนเมนูอื่น ๆ อย่าง logo เราก็สามารถใส่เข้าไปได้เลยนะครับ
ในส่วนของการตั้งค่า tax และ shipping ลองเข้าไปศึกษาได้ที่ Google shopping guide about shipping เขาเขียนไว้ให้ศึกษาแล้ว
คลิกตรงเมนู Products >> Feeds กดตรงเครื่องหมายบวก ใส่ข้อมูลสถานที่ที่เราต้องการขายและภาษาที่ใช้ ฟีดสินค้าที่เราสร้างนั้น 1 ฟีด ใช้ได้แค่ 1 สถานที่เท่านั้นนะครับ อย่างเช่น หากเราต้องการโฆษณาที่ญี่ปุ่น ก็ใช้ภาษาญี่ปุ่น สถานทีคือประเทศญี่ปุ่น เท่านั้น หากเรายิงโฆษณาไปยังประเทศอื่น ๆ ฟีดสินค้าเราตัวนี้ก็จะไม่ทำงาน ดังนั้น ระบุให้ชัดเจนนะครับ
หลังจากนั้นให้เรากำหนดชื่อฟีดสินค้า แล้วเลือก google sheets นะครับ เพราะเขามีแบบฟอร์มไว้ให้เราแล้ว สำหรับการกรอกข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ง่ายและสะดวก จริง ๆ มีหลายวิธีครับในการทำ products feed แต่มือใหม่ แนะนำว่าใช้ google sheets เถอะครับ ง่ายกว่าเยอะ
เมื่อสร้าง Products Feed เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ใกล้ถึงเวลาที่เราจะเอาไปโฆษณาซะที แต่เราต้องเชื่อมบัญชี Google ads กับ Google Merchant Center เข้าด้วยกันก่อนนะครับ
อยากจะเขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำหนังสือขาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือลงขายที่แอมะซอน KDP เพื่อเป็น Passive income ที่ทำทิ้ง ๆ ไว้ก็พอได้ค่าเช่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ในทุก ๆ เดือน บางเดือนลืมถอนมาใช้ก็เก็บเป็นเงินเก็บไว้ แล้วพอแอคเคาท์โดนระงับ ก็หยุดไปพักนึง ก่อนจะมาเปิดบัญชีใหม่ ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ผมทำได้แค่แชร์ประสบการณ์ ไม่คิดจะสอนใคร ไม่รับให้คำปรึกษาใคร ผมว่าทุกคนเก่งอยู่แล้ว เพียงแค่ยังหาหนทางออกไม่เจอก็เท่านั้นเอง เห็นหลายคนโดนแบนก็แบบนะ เห็นใจอยากช่วยให้แนวคิด เลยเขียนบทความนี้ขึ้น ขอฝากอย่างเดียว หากตั้งใจจริงและอยากโลดแล่นทำธุรกิจนี้ต่อเรียนรู้ศึกษาเพิ่มครับ
คอร์สเรียนออนไลน์ฟรีของ Google นั่นคือ คอร์สที่ชื่อว่า Fundamentals of Digital Marketing เมื่อเรียนจบคอร์สจะมีการสอบ Exam Final หากเราสอบวัดผลได้เกิน 80% ก็ถือว่า "ผ่าน"