ค่ำคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ยังนอนดึก แต่คืนนี้ไม่ได้เข้านอนดึกเพราะนั่งทำงาน แต่เป็นค่ำคืนที่นั่งคิดทบทวนเรื่องราวหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้เราได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์ ดีบ้างร้ายบ้าง สุขทุกข์ครบทุกอารมณ์จริง ๆ นึกถึงอดีตจนถึงปัจจุบัน ย้อนมองดูตนเองจากเมื่อก่อน ว่าเราเปลีี่ยนแปลงไปขนาดไหน มุมมองความคิด ทัศนคติต่าง ๆ เรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตที่เปลี่ยนไปในทุกวี่วัน เราเองก็อาจจะเปลี่ยนตามกาลเวลานั้น ๆ โดยไม่รู้ตัว วันนี้เราเองรู้สึกโตขึ้น มีหลาย ๆ สิ่งเปลี่ยนไป และไม่ใช่เพียงเราที่เปลี่ยน ยังมีผู้คนรอบตัวที่เปลี่ยนไปอีกมาก
อีกเพียงไม่กี่วันก็ใกล้ถึงวันเกิด อายุมากขึ้นอีกปีแล้วสินะ ตลอดช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ไม่ได้เที่ยวต่างประเทศเลย แม้แต่ในประเทศก็ไม่ได้ไปไหนอีกต่างหาก อยากไปเที่ยวอีกในแบบเดิม ๆ ท่องเที่ยวเดินทางคนเดียว วางแผนเอง อยู่กินง่าย สบาย ๆ มีความกล้าผจญภัย เป็นมิตรกับผู้คนที่พบเจอ อยากไปถ่ายภาพ เก็บภาพความทรงจำ แต่ ณ ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเราจะยังเป็นคนที่นิสัยแบบนั้นได้อยู่หรือป่าว? บางครั้งการเป็นคนโลกสวยมาก ๆ ก็ทำให้เราเป็นทุกข์ได้เนาะ บทเรียนจากอดีตสอนเราแบบนั้น ทุกวันนี้ก็มองทุกอย่างเป็นกลาง อะไรก็ได้ หากว่าจะมีข้อแม้บ้างในบางสิ่งพองาม เพื่อตัวเองไม่ทุกข์ใจเป็นพอ แล้วปล่อยวางไป หรือจะใช้คำว่า ช่างแมร่ง ดีนะ ฮาฮา :P
ทุกวันนี้กล้องตัวโปรดถูกใช้งานเพียงแค่ถ่ายภาพสินค้าเพื่อขายของออนไลน์เพียงอย่างเดียว ไว้ฉันจะพาแกออกตะลุยโลกกว้างไปด้วยกันอีกครั้งนะ ฉันสัญญา..
อายุมากขึ้น สติก็มากขึ้นด้วย ทบทวนจากประสบการณ์ ทำให้มีกระบวนการคิดแก้ปัญหาง่ายขึ้น(มั้ง) ผมเข้าใจแบบนี้ แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่สังเกตเห็นคนวัยเดียวกันวัยใกล้เคียงกัน หยุดพัฒนาตนเอง หยุดเรียนรู้ จมกับอะไรเดิม ๆ ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามีเยอะ บางครั้งก็เสียดายเวลา เสียดายโอกาสดี ๆ ที่อาจจะมีเข้ามาในชีวิตของเขาเหล่านั้น อืม.. ตอนนี้เขียนเรื่อยเปื่อยมาก ๆ เพราะไม่รู้จะเขียนอะไรตั้งแต่เริ่ม
อ่อ.. ตอนนี้ครอบครัวเรามีสมาชิกตัวน้อยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว มีภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี อะไรที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ เพื่อนคนหนึ่งมักพูดประโยคนี้กับผมบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเรื่องเลวร้ายกระทบจิตใจมาก ๆ หรือเรื่องที่เราดีใจสุด ๆ ก็ตาม
ขอเบลอหน้าเจ้าตัวเล็กสักหน่อย กลัวจะเห็น ความน่ารัก หน้าตาสดใส โตมาสวยแน่นอน อิอิ นี่ถ้าโตวิ่งได้ คุยได้ เมื่อไหร่ หากขี้อ้อนเก่งด้วยนะ หึหึ ไม่รู้อากง อาม่า จะหลงขนาดไหน แค่ตอนนี้ตีนเท่าฝาหอย ยังหลงซะขนาดนี้ เดี๋ยวอุ้ม ๆ ตลอด ไม่ห่างมือเลยว่างั้น :)
พิมพ์เขียนเรื่อยเปื่อยมาก ๆ สุดท้ายขอจบแบบการดูดวงแล้วกัน ปกติดูดวงเขาดูอะไรบ้างนะ การงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ ประมาณนี้เนาะ
การงาน – ช่วงนี้งานขายของออนไลน์ก็เรื่อย ๆ ยอดขายไม่มากไม่น้อย กำลังขยายงานดรอปชิบทั่วโลกจากการขายบนเว็บขยายลงไปขายในแอมะซอน อีเบย์ และอื่น ๆ หาช่องทางทำงานสร้างรายได้ใหม่ ๆ โดยกำลังสร้างพอร์ตงานที่สามารถเป็น passive income ให้เราได้ตลอด ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ต้องได้เดือนละ $500 กำลังเร่งงานส่งอยู่
การเงิน – ยังคล่องมือ แต่ก็ต้องใช้ประหยัด มีสะดุดบ้างบางเวลา เพราะรายจ่ายต่อเดือน 3-4 หมื่นบาท ยังดีที่มีรายได้จากการเก็งกำไรในการขายของเก่าบ้าง (ในยุคลุงตู่ ทุกคนก็จะขายเก่ง ขายทีวี ขายตู้เย็น ขายรถ ขายบ้าน หยอก ๆ ฮาฮา)
ความรัก – ที่ไปชอบเขา เขาก็ไม่ชอบเรา ที่เขามาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขา งั้นก็รักตัวเอง ดูแลหัวใจตัวเองไปนาน ๆ ก่อน เดี๋ยวนี้เป็นคนช่างเลือกมากแท้ เมื่อก่อนไม่ค่อยเลือก หุหุ
สุขภาพ – ออกกำลังกายอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ก็วิ่ง 8-10 กิโลเมตรต่อวัน นาน ๆ ก็จะคว้าจักรยานออกไปปั่นบ้าง 20 – 30 กิโลเมตร น้ำหนักลดลงกว่าเมื่อก่อนเยอะ แลดูผอมไปสักนิด ใคร ๆ ที่พบเจอมักบอกเช่นนั้น แข็งแรงดี เสียตรงที่ช่วงหลังมักนอนดึกบ่อย ๆ นี่ก็จะตี 2 ครึ่งแล้ว แหะแหะ
แฮร่.. เขียนแบบทำนายดวงเลย ดวงเรา เรากำหนดเอง จบดีกว่า เริ่มเลอะเทอะล่ะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะจ๊ะ
สินค้าที่ผมขายมาตลอด 10 กว่าปี ต้องยอมรับว่าไม่ใช่สินค้าเงินล้าน ไม่ใช่สินค้าขายดี เพียงแต่เป็นสินค้าที่ขายได้เรื่อยๆ เท่านั้น สำหรับแผนที่วางไว้สำหรับสินค้าตัวนี้ คือ ขยายตลาดต่างประเทศอีกนิดหน่อยก็จะพอแล้ว โดยลงขายเพิ่มในอีเบย์กับแอมะซอน และเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ลงไป
วันที่ควรว่างแต่ไม่ว่าง กับสมองที่ไม่เคยว่างด้วยความคิดที่อธิบายยากต่อความรู้สึกของวันนี้ เกิดจากคำถามในสมองสั้น ๆ ว่า ทำไมเมื่อก่อนไม่ทำงานตัวเองให้ได้เหมือนที่ทำงานบริษัทฯ
เมื่อคืนก่อนนอนตั้งใจจะเปิดยูทูบดูเขาสอนเกี่ยวกับการใช้งาน AI แบบต่าง ๆ แต่บังเอิญเจอคลิปนึง เกี่ยวกับข้อคิดตามชื่อบทความโพสนี้เลย เลยเปิดฟัง เขาพูดแบบสรุปย่อไว้ให้ คือรู้สึกชอบ จนต้องเปิดไฟ ลุกขึ้นมาจดตามเลยทีเดียว