ความสุขเล็กๆ ระหว่างทางก่อนถึงจุดหมาย
ช่วงเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมาการค้าที่ทำอยู่เริ่มไปไม่รอด ในวัยอายุ 44 ปี 32 เดือน เลยลองส่งใบสมัครงานดู รู้ทั้งรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะมีบริษัทไหนรับเข้าทำงาน แต่ลองส่งดูก็ไม่ผิดอะไร คิดแบบนั้น.. ไม่อยากนั่งรอวันอดตาย
ในขณะที่เราเองก็ดิ้นรนหารายได้มาประทังชีวิตนั้น ก็ทำงานหลายอย่าง พยายามโปรโมทสินค้าที่ขาย แต่ยอดขายก็ไม่ดีขึ้นอย่างที่ตั้งใจหากกลับมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นอีก
งานที่กำลังพัฒนาให้เป็นธุรกิจใหม่ ซึ่งกำลังจะมาแทนธุรกิจเก่าที่ไม่น่าจะสร้างรายได้เลี้ยงตัวได้แล้ว คือ ขายสมุดบันทึกและเสื้อผ้า ย้อนกลับไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เครียดมากกับการหารายได้ในช่วงเวลาแบบนี้ แว็บนึงตัดสินใจที่จะทำธุรกิจนี้จริงจัง คือก่อนหน้านี้คิดเพียงว่าเป็นธุรกิจเล็กๆ ก็พอ ขายและโปรโมทบน marketplace ก็พอแล้ว แค่ทำๆ ไป สนุกและมีความสุขที่ได้ทำ ได้ลงงานขาย ให้มีรายได้มีเข้ามาได้ใช้บ้างถึงจะไม่ได้เยอะอะไรมากนัก หวังว่าจะฟลุ๊คมีลูกค้ามาเหมาของไปเยอะๆ ได้ซัก 100-200 เหรียญยูเอสใน 1 ออเดอร์ เหมือนหวังถูกหวยเลยแหล่ะ นั่งคิดสะระตะอยู่พักใหญ่ ตั้งคำถามกับตัวเอง ทำไมและทำไม เช่น ทำไมลูกค้าถึงมาซื้อเสื้อลายนี้บ่อย ทำไมดีไซน์หนังสือแบบนี้ลูกค้าซื้อประจำ อะไรทำให้เขาซื้อ ซึ่งระหว่างที่สาละวนกับความคิด ก็จดๆ ออกมา นั่งอ่าน นั่งพิจารณา เห็นจุดนึงที่เราไม่เห็นคิดจะทำ คือ การเห็นสินค้าจริงๆ เพราะทั้งเสื้อและสมุดนั้น เมื่อเราออกแบบดีไซน์ก็ส่งแบบให้เขาเอาไปลงสินค้าขายเลย ไม่เคย QC ของที่เราขายในแบรนด์ของเราเอง ฟังแล้วตลกดีเนาะ เลยตัดสินใจลองสั่ังซื้อสินค้าเองเลย เพื่อจะดูคุณภาพ ระยะเวลาการจัดส่ง แพคเกจจิ้ง…
วันนี้ลงไปเอาของที่ทดลองสั่งซื้อ ซึ่งถึงได้สักอาทิตย์แล้ว แต่เพิ่งไปเอาที่ส่วนกลางนิติฯ ของอาคาร (สั่งซื้อ 21 เมษา ถึง 7 พค) สำหรับคุณภาพถือว่าดีเยี่ยมเลย ทำให้เข้าใจงานการออกแบบมากขึ้น ทั้งสมุดและเสื้อ งานพิมพ์ของเสื้อ ตอนแรกไม่เข้าใจเรื่องสีบนผ้าแต่ละชนิด ตอนนี้เริ่มเข้าใจแต่ต้องศึกษาเพิ่ม อย่างเสื้อที่สั่งมาเป็นแบบ cotton 80 poly 20 ไม่เข้าใจว่าปริ้นท์ออกมาแล้วสีจะออกมาหน้าตายังไง ตอนนี้รู้ล่ะ เพราะเมื่อเทียบกับเสื้อ cotton 100 ก็จะเห็นความต่างของเนื้อสีปริ้นท์และความคมชัด ฉะนั้นออกแบบครั้งหน้ากับงานเสื้อชนิดไหนรู้แล้วว่าจะใช้เฉดสีอะไร ดีไซน์แบบไหน เพื่อให้ได้งานในแบบที่ต้องการ ตอนนี้รออีก 2 โรงพิมพ์ ซึ่งสั่งเมื่อไม่นานนี้ จะได้นำมาเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้ากัน เวลาขายจะได้สบายใจหน่อยว่า ลูกค้าของเราจะได้ของที่มีคุณภาพ เพราะสินค้าที่ขายในไทยก็คัดสรรของดีและมีคุณภาพมาขายลูกค้าเสมอเช่นกัน แต่ด้วยความที่เราเองไม่ชอบการโฆษณาเกินจริงด้วยมั่ง ยอดขายเลยไม่ดี เห็นคนที่เขาขายสินค้าเหมือนเราแต่โฆษณาแบบอ่านแล้วเราเองยังไม่กล้าฟันธงว่าดีขนาดนั้น… กลัวจริงๆ แต่เขาขายได้และขายดีนะ อันนี้ยอมใจ ขอใช้ชีวิตแบบ…บนความถูกต้องดีกว่าความถูกใจแล้วกัน ถึงจะประกอบอาชีพสุจริตทั้งกาย วาจา ใจ วันนี้ไม่มีใครเห็น แต่เชื่อว่าเทวดาเห็น
ถึงรายได้จะหายากซักหน่อยช่วงนี้ กินข้าวไข่เจียวบ้าง ต้มหมี่กินบ้างในบางมื้อ แต่ยังมีกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อยืนหยัดสู้ต่อไป ก่อนนอนทุกคืนคิดแค่ว่าเดี๋ยวอะไรมันก็ดีขึ้น พยายามทำต่อไปเรื่อยๆ แค่นั้นเลยจริงๆ บอกตรงๆ ก็ ท้อและหมดหวังแระ แต่ใจมันยังสู้..