ร่วมๆ อาทิตย์แล้วที่ผมไม่ได้อัพเดทบล็อกเลย เนื่องจากว่าช่วงนี้ผมต้องทำการย้ายที่อยู่ และหาที่อยู่ใหม่ด้วย ช่วงนี้เลยค่อนข้างยุ่งสักเล็กน้อย แถมอาการปวดหลังที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้ กลับมีอาการปวดมากขึ้นอีก คิดว่าน่าจะมาจากการยกของหนักในช่วงนี้ เลยทำให้นั่งเป็นเวลานานๆไม่ได้ คิดจะเขียนมาหลายวันแล้ว แต่ก็ทนสังขารตัวเองไม่ไหว…
กลับมาเข้าเรื่องที่ผมจะนำเสนอวันนี้ดีกว่า…
วันนี้ตั้งใจจะมาแนะนำเพื่อนๆ ที่ใช้ Blogger.com ว่าจริงๆแล้ว หากเราต้องการที่จะโพสต์บทความลงในบล็อกของเรา เราไม่จำเป็นต้องเข้าไป Log in ใน Blogger.com ทุกครั้งก็ได้นะครับ ซึ่งถ้าใครใช้ MS Word 2007 อยู่แล้ว ก็สามารถที่จะโพสต์บทความขึ้น Blogger.com ได้เลยครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมเองจะเขียนบทความใส่ MS Word 2007 อยู่แล้ว หรือ แม้กระทั้งเป็นบทความที่ไป Copy มา ผมก็จะเก็บไว้ใน MS Word เช่นกัน เพียงแค่เมื่อผมต้องการจะโพสต์ลง Blogger.com ผมก็โพสต์ได้เลย โดยไม่ต้อง Log in ในหน้า Blogger.com มาดูวิธีทำกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นให้เปิดไฟล์โปรแกรม MS Word ขึ้นมาก่อน แล้วทำการคลิกที่ Office Bottom ในรูปแสดง หมายเลข 1 และคลิกตรง Publish หมายเลข 2 และ Blog หมายเลข 3 ตามลำดับ
หลังจากนั้น เราจะมาอยู่ที่หน้ากระดาษที่พร้อมจะใส่ บทความของเรา หรือ บทความที่ก็อบมา ทำการใส่บทความดังกล่าวลงในหน้ากระดาษ อย่าลืมใส่ Title ด้วยนะครับ หลังจากนั้น ให้คลิกตรง Publish ที่อยู่ใต้ Office Bottom ด้านซ้ายมือ ดังรูปด้านล่าง
หลังจากที่คลิกแล้ว ระบบจะทำการถามว่า เพื่อนๆต้องการที่จะส่งบทความนี้ไปที่ใด ซึ่งไม่ใช้เพียงแค่ Blogger อย่างเดียวนะครับ แต่ยังรวมถึง WordPress, TypePad, Window Live Space เป็นต้น
ในที่นี้เราต้องการโพสต์บทความลงใน Blogger.com เราก็เลือกที่ Blogger ได้เลยครับ และ คลิก Next ต่อไป เมื่อทำการคลิกแล้ว ระบบจะให้เราเลือกบล็อก กรณีที่มีหลายบล็อก ก็เลือกบล็อกที่เพื่อนๆต้องการจะนำบทความนั้นๆไปแสดง
หลังจากนั้น ระบบจะให้เราใส่ User Name กับ Password ซึ่งก็คือ อีเมล์ และ Password ที่เราใช้ในการ Log in Blogger นั่นเอง
เมื่อทำการใส่ User Name กับ Password เรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการถามซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็ใส่ไปเหมือนเดิมได้เลยครับ หลังจากนั้น ก็คลิก OK เป็นอันเสร็จสิ้น บทความของเพื่อนๆก็จะถูกแสดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จบแล้วครับ แค่นี้เอง ง่ายนิดเดียว
เพิ่มเติม: หากเพื่อนๆท่านใดต้องการเพิ่ม Blog Account ก็สามารถเข้าไปที่ menu ด้านบน ตรง Manage Accounts แล้วทำการเพิ่ม หรือ แก้ไขข้อมูลต่างๆได้เลยนะครับ
ลองใช้กันดูครับ เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงนำมาแนะนำกัน
ปล. ขั้นตอนด้านบนอาจไม่เหมือนกันในแต่ละ User นะครับ แต่โดยหลักการแล้ว ก็มีเท่าที่เสนอไปครับ
คุณสามารถคอมเม้นต์หรือเสนอวิธีการต่างๆได้อีกนะครับ หากจะเป็นการช่วยกันพัฒนาและต่อยอดให้ใครอีกหลายๆคนได้ รวมถึง ตัวผมเองด้วย
ถ้านั่งนานๆได้แล้ว ผมจะมาอธิบายแบบละเอียดๆ อีกครั้ง ตอนนี้ขอตัวไปนวดยาก่อนนะครับ T_T
เธอได้ยินเหมือนกันหรือไม่ มันคือเสียงเต้นของหัวใจ ทุกๆ ครั้งที่เรานั้นใกล้ เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่า ดีใจ ทุกครั้งที่เจอกัน ดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กัน เชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอ มันเป็นความสุขของหัวใจ เมื่อเราได้พบกันเสมอ ใจมันเต้นแรงทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เธอ.. หลับตาฟังแล้วคงเข้าใจ ความรู้สึกข้างใน หัวใจที่มี มันคือเสียง ข้างใน หัวใจที่สั่นไหวทุกที..
ฮิสทีเรีย คือ โรคขาดผู้ชายไม่ได้....จริงหรือ?? นั่นเป็นความเข้าใจผิด ความผิดพลาดทางภาษา ความมักง่ายในการใช้ภาษา การคิดไปเองของคนทั่ว ๆ ไป แล้วแต่ใครจะเรียก จึงทำให้ ฮิสทีเรีย กลายเป็น โรคขาดผู้ชายไม่ได้ ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ผู้ที่เป็นฮิสทีเรียนั้น จะมีอาการที่เรียกว่าขาดความอบอุ่นอยู่ด้วยในตัว และธรรมชาติของมนุษย์ คือต้องการที่ยึดเหนี่ยว ต้องการที่พึ่งพิง โดยความต้องการเหล่านี้ จะเพิ่มพูนสูงขึ้นมาก กับผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย ถ้ามองอีกแง่หนึ่งอาจจะเป็นคนประเภทพึ่งตัวเองไม่ได้เลย ก็ว่าได้ และจากเหตุนี้เอง ทำให้เมื่อมีใครสักคนหนึ่งมาทำดีด้วยกับตน ก็จะเกิดความรู้สึกผูกพันธ์ขึ้นอย่างรวดเร็ว และในบางรายอาจจะเกิดอาการแสดงความเป็นเจ้าของในระดับหนึ่ง
วิธีการชำระล้างหินทิเบตให้บริสุทธิ์ เพื่อกระตุ้นพลังงานจากธรรมชาติอย่างถูกต้อง มีวิธีการชำระล้างหินทิเบตที่นิยมปฏิบัติอยู่ 9 วิธีด้วยกัน ได้แก่.. สำหรับผมแล้ว ผมชอบที่จะชำระล้างโดยวนควันธูป เปิดน้ำไหลผ่าน และเปิดเสียงบทสวดมนต์ ซึ่งสะดวกกับตัวเอง และทำให้จิตใจสงบ หินได้ปรับพลัง คนก็ได้ปรับพลังด้านบวกด้วยเช่นกัน.. คาถาบูชาหินทิเบต - นะโม (3 จบ) ต่อด้วย โอม มณีปัด เมฮุม (8 จบ)