อบรมคนกล้าคืนถิ่น

หลังจบการ อบรมคนกล้าคืนถิ่น 5 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันที่ 22-27 มีนาคม ที่ผ่านมา วันนี้เพิ่งจะมีเวลาว่างมานั่งเขียนบล๊อก อืม… ว่าแต่จะเริ่มเขียนยังไงดี? ตอนแรกตั้งใจจะเขียนแยกเป็นแต่ละวันๆ ไป แต่รายละเอียดเยอะเกิน คิดว่าเขียนบรรยายลงมาไม่หมด ขอเขียนเป็นภาพรวมๆ น่าจะดีกว่า ผมเดินทางไปถึงสถานที่นัดหมายราวๆ 10.30 น. ได้เจอเพื่อนๆ บางส่วน ได้ทักทายพูดคุยกันนิดหน่อย ตามประสาคนแปลกหน้า บทสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความ “คาดหวัง” ว่าโครงการฯ นี้ จะให้อะไรกับเรา เราจะได้อะไรจากโครงการฯ และ เราจะให้อะไรคืนสังคมในท้องถิ่น อาทิเช่น ความรู้ต่างๆ, แนวทางการช่วยเหลือ, พี่เลี้ยงในการแนะแนวทางการทำเกษตรอย่างยั่งยืน เป็นต้น ผมเข้าใจว่าเพื่อนๆ ที่มาร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่นนี้ ส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจงานด้านการเกษตรดีพอควรอยู่แล้ว หลังจากได้คลุกคลีกันมาในวันสองวันแรก บางคืนผมก็นอนคิดนะว่า โครงการฯ นี้มองจุดนี้หรือป่าว เพราะจุดประสงค์เหมือนพุ่งเป้าไปที่คนในเมืองหลวงที่มีถิ่นฐานในชนบท ผมขอไม่เขียนเรื่องราวของการนำเสนอและวิธีการของการอบรมกับโครงการคนกล้าคืนถิ่นที่พวกเราได้รับมานะครับ ผมว่ามัน “Complicated” เกินไป และจะใช้เกณฑ์อะไรในการวัดผล ว่าใครผ่านเกณฑ์ได้รับเลือกไปต่อในการลงปฏิบัติเป็นเวลา 5 เดือนต่อไป จะไปได้แค่ไหน อันนี้ยังไม่รู้ No Comment!!! รอการประกาศผลเงียบๆ ดีกว่า

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ผมรู้อยู่แก่ใจ ว่าผมได้รับอะไรจากการเข้าร่วมอบรมในโครงการฯ ครั้งนี้ นั่นก็คือ “มิตรภาพ” ครับ เพื่อนๆ ในคลาสอบรมมีด้วยกัน 38 ชีวิต มาจากหลายสาขาวิชา ต่างที่มา ต่างวัย แต่ทุกคนตั้งใจจะกลับมาทำเกษตรในพื้นที่ของตนเอง แต่ส่วนใหญ่ก็ทำกันอยู่แล้วในพื้นที่ตนเองนั่นแหล่ะ ซึ่งใครๆ ก็ทราบว่า งานด้านการเกษตรนั้นจะทำให้ประสบความสำเร็จนั้นมันโคตรยากเลยครับ หากไม่คิดแนวทางใหม่ เรียนรู้และศึกษาเทคโนโลยีเพื่อนบ้านแล้วนำมาปรับใช้ คนไทยและเมืองไทย รัฐฯ ไทย นักวิชาการไทย ฯลฯ ยังมองและถือปฏิบัติในแบบวิถีชาวบ้านแบบเดิมๆ แล้วยังให้คนรุ่นใหม่ไปเรียนและศึกษาแบบเดิมๆ เชื่อผมเถิด ถ้ายังเป็นแบบนี้ อีก 100 ปี อาชีพเกษตรกรไทยก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ อัตราการพัฒนาต่ำ หรือ ช้ากว่าชาวโลกแน่ๆ อุ๊ป!! ว่าจะไม่เขียนเชิง Negative แล้วเชียว การเมืองอีกแระ… ขออภัยครับ :P

ตลอดระยะเวลา 5 วัน ผมรู้สึกสนุก ดีใจ ปลื้มใจที่ได้เจอพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในคลาสของการอบรมครั้งนี้ ทุกคนมีไอเดียที่ผมต้องจดและจำ เพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของผม ผมได้แง่คิด มุมมองการใช้ชีวิตจากพี่ๆ หลายคนที่ร่วมอบรม ได้แนวคิดเรื่องอาชีพจากเพื่อนๆ และน้องๆ ที่ผมไม่เคยได้รู้มาก่อน ในขณะที่โครงการฯ ไม่ได้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเรา โดยทางตรงก็ตาม ผมก็ต้องขอขอบคุณทางโครงการฯ ที่ทำให้พวกเราได้มาเจอกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เก็บเกี่ยวความรู้ซึ่งกันและกัน จนเราตั้งกลุ่มกันขึ้นมาเอง เพื่อผลักดันและช่วยเหลือกัน ในด้านการเกษตร ส่วนผลการประกาศว่าใครได้เข้าแข่งขันชิงเงินล้านบาท คงไม่มีความหมายมากนัก

 

มิตรภาพเงินซื้อไม่ได้ ศักดิ์ศรีเกษตรกรไม่ใช่เกมของใคร?

 

อบรมคนกล้าคืนถิ่น

จบแล้ว แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป… โชคดีครับ พี่น้องคนกล้า รุ่น1 เขต 5 เชียงราย (รุ่น ฟ้าผ่า)

คนกล้า รุ่น1 เขต5 เชียงราย