สวัสดีครับ กลับมาต่อกันตอนที่ ๒ ต่อเลยนะครับ

อย่างที่ได้เล่าไปแล้วบางส่วนในตอนที่ ๑ ที่ผ่านมา ผมจึงได้ตั้งคำถามๆ กับตัวเองว่าเราเป็นเป็ดหรือป่าว เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้อะไรๆ เกือบทุกอย่าง เกี่ยวกับการหารายได้บนอินเตอร์เน๊ต หรือ การหารายได้ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การทำร้านค้าสำเร็จรูปในแบบ ecommerce การขายสินค้าผ่าน ebay การทำโฆษณาผ่าน search engine ต่างๆ การสร้างบล็อกโปรโมตสินค้า Affiliate ต่างๆ หรือ แม้กระทั่ง การสร้างเว็บไซต์และปรับแต่ง SEO ด้วย มากมายจริงๆ ยังมีอีกมากที่ผมบอกไม่หมด ผมเลยมานั่งวิเคราะห์ตัวเองใหม่ว่าจริงๆแล้ว ผมมีรายได้เยอะสุดจากอะไร ที่ไหน อย่างไร และตอนนี้ผมได้วางแผนมุ่งเน้นเพียงอย่างเดียวและจะทำให้ดีที่สุด จริงๆ แล้ว การรู้เยอะๆ เป็นสิ่งที่ดีครับ เพียงแต่รู้ลึก รู้จริงหรือป่าว ก็เท่านั้นเอง

วันก่อนได้มีโอกาสอ่านวารสารเล่มหนึ่ง เป็นวารสารแจกฟรี มีบทความหนึ่งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกชอบ จึงขอนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เขียนโดย คุณประพาฬรัตน์ ยงมานิตชัย

“รู้อย่างเป็ด” เป็นสำนวนไทยที่บางคนอาจรู้จักหรือเคยได้ยินกันมาบ้าง รู้อย่างเป็ด หมายถึง รู้ไม่จริงสักอย่างเดียว แม้จะดูรอบรู้ แต่ก็รู้ไม่ลึกซึ้ง รู้แบบครึ่งๆ กลางๆ เปรียบได้กับธรรมชาติของเป็ดที่ทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเดินก็ได้ บินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ ดำน้ำก็ยังได้ แต่ทำได้ไม่เก่งสักอย่าง

คนที่รู้อย่างเป็ด ภายนอกอาจดูเหมือนมีความรู้ความสามารถมากมาย แต่ถ้าลองสนทนาหรือทำความรู้จักกันอย่างลึกซึ้งแล้ว จะรู้ว่าคนประเภทนี้ ไม่ได้เก่งรอบด้านอย่างที่แสดงออกมา องค์กรใดที่มีคนรู้อย่างเป็ดมาก องค์กรนั้นจะเติบโตได้ยาก เพราะไม่มีใครรู้งานอย่างลึกซึ้งจนสามารถต่อยอดหรือสร้างสรรค์ผลงานเชิงคุณภาพได้ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เราจึงควรเร่งพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองไม่ไห้เป็นคนรู้อย่างเป็ด โดยการทำตนให้ “รู้อย่างพหูสูต” คือ เป็นผู้มี “ความฉลาดรู้” อย่างน้อยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อจะได้นำความรู้ในเรื่องนั้นไปสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่องค์กร สังคม และประเทศชาติต่อไป

คราวหน้าผมจะมาเขียนถึง “การรู้อย่างพหูสูต” ในโพสถัดไปของ “รู้อะไร…อย่าให้รู้อย่างเป็ด ตอนที่ ๓” ห้ามพลาดนะครับ