ความทุ่มเทให้กับตนเอง
วันที่ควรว่างแต่ไม่ว่าง กับสมองที่ไม่เคยว่างด้วยความคิดที่อธิบายยากต่อความรู้สึกของวันนี้ เกิดจากคำถามในสมองสั้น ๆ ว่า ทำไมเมื่อก่อนไม่ทำงานตัวเองให้ได้เหมือนที่ทำงานบริษัทฯ
สวัสดีครับ หายไปนานไม่ได้อัพเดทบล็อกเลย เพราะว่าเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไปครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปเกาะสมุย วันที่ 18/10/08 เพิ่งเดินทางกลับมาจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงกรุงเทพฯ ตอนตี 4.30 น. เหนื่อยมากครับ และมีอาการจะเป็นไข้เสียด้วยสิ ขอเล่าเรื่องบนเกาะสักหน่อยนะครับ สภาพบนเกาะสมุยเปลี่ยนไปมากพอสมควร แตกต่างจากเมื่อ 20 กว่าปีก่อนที่ผมเคยไปมามาก จากป่าๆ ตอนนั้น ตอนนี้มีแต่ตึก มีแต่บ้าน หอพัก บ้านพัก ห้างร้านต่างๆ เยอะแยะไปหมด มองๆดูแล้วผมกลับหวนนึกถึงธรรมชาติสมัยก่อนโน้น ยิ่งคิดยิ่งเสียดายธรรมชาติที่บนเกาะเคยมี ตอนนี้แค่มองไปบนเขาก้อจะเห็นรีสอร์ตเป็นทิวแถวกันเลยทีเดียว ขณะที่ผมขับรถอยู่บนเกาะสมุยสายหลัก จากหน้าทอน เพื่อมุ่งหน้าไปเฉวง ผ่านเขาลูกหนึ่งเห็นแล้วก้อใจหายครับ เขากำลังตัดเขาทำถนนขึ้นเขาอยู่ คิดว่าคงกำลังจะสร้างรีสอร์ต หรือ โรงแรม หรือ ไม่ก้อร้านอาหาร หรือ ผับต่างๆ แต่หลังจากอยู่ไปอีก 3-4 วัน จึงรู้ว่าเขาตัดเขาทุกด้านที่อยู่บนเกาะครับ เขาบอกเป็นเรื่องธรรมดาๆไปแล้ว ต่อไปเกาะสมุยคงจะไม่มีเขาสักลูกเป็นแน่แท้ คิดแล้วเลือดอนุรักษ์ที่ผมมีอยู่ในตัวเดือดพุ่งออกมาเลยครับ แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ เฮ้อ!!!
จุดมุ่งหมายของผมที่ลงไปเกาะสมุย เพราะคิดถึงครอบครัว พี่น้อง (ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันนานมากแล้ว หลายๆปีมาก จนจำไม่ได้ว่ากี่ปี ที่พ่อแม่และพี่น้องจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทุกคน) และอยากทำธุรกิจอะไรสักอย่าง จึงลงไปดูที่ดูทาง แต่พอเห็นสภาพแล้ว มันยิ่งทำให้ผมคิดว่าเราต้องรีบลงมาทำธุรกิจอะไรสักอย่างแล้ว ให้เร็วที่สุด และเราจะไม่ทำลายธรรมชาติอย่างแน่นอน จนผมคิดไปถึงการจัดตั้งสมาคมฯ หรือ มูลนิธิฯ ขึ้นบนเกาะสมุยเลยทีเดียว เพื่อปกป้อง และ พิทักษ์ความเป็นเกาะสมุย รวมถึงสิ่งแวดล้อมบนเกาะสมุยไว้
เรื่องก็มีเท่านี้ครับ คิดไม่ออกแล้วครับ ว่าจะเขียนอะไรดี จริงๆตอนนี้เรื่องมันมีอยู่แต่ในหัวที่มึนๆของผม ไม่สามารถเขียนได้มากไปกว่านี้ ไว้สมองแจ่มใส หายไข้แล้ว ผมจะกลับมาสาธยายให้ได้อ่านกันนะครับ
ปล. อย่างไรก้อแล้วแต่ เกาะสมุยก้อยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวอยู่เช่นเคย